Search for:
  • Home/
  • Games News/
  • “โบว์ เบญจวรรณ” ยังมีร้องไห้บ้าง เลิก “ก๊อต จิรายุ” พยายามมูฟออน

“โบว์ เบญจวรรณ” ยังมีร้องไห้บ้าง เลิก “ก๊อต จิรายุ” พยายามมูฟออน

เป็นอีกคู่รักคนบันเทิง ที่สะบั้นความสัมพันธ์ท่ามกลางความเสียดายของแฟนๆ สำหรับคู่ของ “โบว์ – เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์” กับ “ก๊อต – จิรายุ ตันตระกูล” ที่จบรัก 10 ปีไปหมาดๆ แต่ทว่ามีหลายหลายกระแสคาดเดาและโยงไปถึงสาเหตุการเลิกกันของคู่นี้ จนกลายเป็นดราม่าในโซเชียล

โดยล่าสุด “โบว์ เบญจวรรณ” ได้ออกมาเปิดใจหลังกลับมาโสดอีกครั้ง พร้อมอัปเดตสภาพจิตใจ รวมถึงเคลียร์ดราม่าต่างๆ ด้วย

สภาพจิตใจตอนนี้คำพูดจาก เว็บสล็อตเว็บตรง?

“วันนี้แล้วกัน วันนี้โอเค เราวันต่อวัน บรรยากาศที่นี่ด้วยทำให้เราได้เห็นสิ่งน่ารักๆ เอ็นดูทุกอย่างไปด้วย เป็นวันที่ดี โอเค ถ้าอยู่คนเดียวก็แล้วแต่วันเหมือนกัน โบว์เป็นคนที่ค่อนข้างยอมรับอารมณ์ตัวเอง ถ้าวันไหนดีก็จะบอกว่าดี โดยเฉพาะเวลาเพื่อนๆ มาถามว่าวันนี้เป็นไงบ้าง ดีก็ดี แต่ถ้าวันไหนนอยด์มากจะโทรหาเพื่อนให้มาหาหรือจะหากิจกรรมทำ แต่ช่วงนี้ค่อนข้างอยู่บ้าน โบว์รู้สึกว่าการที่จะจัดการกับอารมณ์ตัวเองหรือความรู้สึกต่างๆ มันค่อนข้างสำคัญ ช่วงนี้ได้นั่งสมาธิเยอะขึ้น ได้อ่านหนังสือเยอะขึ้น ฟังข้อความหรือเปิดฟังอะไรที่มันเจริญสติเรามี่ทำให้รู้สึกว่าต้องจัดการกับมันให้ได้ เพราะฉะนั้นการที่โบว์เอาเอนเนอร์จี้ของโบว์ออกไปข้างนอก อาจจะต้องเอนเตอร์เทนคนโน้น คนนี้ หรือไปเจอคนโน้น คนนี้ มันกลายเป็นว่าเหนื่อย การที่เราอยู่บ้านแล้วจัดการกับอารมณ์ตัวเองเป็นอะไรที่ตอบโจทย์สำหรับโบว์ตอนนี้ แต่ก็มีด้วยความที่เพื่อนๆ เป็นห่วง ก็จะมาบุกบ้านกัน เหมือนเขาก็ใช้ชีวิตของเขาไป เขารู้ว่าเราก็จัดการของเราอยู่ ก็จะฟีลมาปิกนิกแล้วปล่อยให้เราเป็นเราไป”

ใจกี่เปอร์เซ็นต์?

“ก็แล้วแต่วัน ต้องเดย์บายเดย์เท่านั้น โบว์ไม่อยากลัดขบวนการหรือไม่อยากบอกว่าโอเคมาก แล้วทุกคนคิดว่าโอเคจริงๆ แต่ในใจคือยังไม่โอเค เพราะฉะนั้นโบว์จะค่อนข้างจริงใจกับความรู้สึกที่เจอ ณ วันนี้”

“โบว์ เบญจวรรณ” น้ำตาซึม เลิก “ก๊อต จิรายุ” ปิดฉากรัก 10 ปี

น้องสาวเผยแชตคุย “ก๊อต จิรายุ” หลังเลิก “โบว์ เบญจวรรณ”

ยังร้องไห้คนเดียว?

“มันมีแหละ (ใช้ธรรมะช่วย?) ใช่ วันไหนดิ่งมากการนั่งสมาธิและพิจารณาต่อความรู้สึก สิ่งนึงที่สำคัญและช่วยได้เยอะคือยอมรับ ยอมรับว่าตอนนี้ไม่โอเค ยอมรับว่าวันนี้ดีขึ้น แล้วอีกอย่างที่โบว์ทำเพิ่ม มีดีเอ็มเข้ามาเยอะเหมือนกันก็แนะนำน้องคนนึงไปว่าปกติโบว์จดบันทึกอยู่แล้วประจำวัน แต่ก็จดความรู้สึกตัวเองเข้าไปเพิ่ม เหมือนไดอารีถึงตัวเอง พอเวลาเรากลับไปดูจะเห็นว่ามีการพัฒนาความรู้สึกนะ บางวันอาจจะดรอปบ้างหรือกลับไปสเต็ป สองสเต็ป มันสามารถดูได้ว่าเราพัฒนาไปตอนไหน จากวันแรกที่ขียนจดถึงวันนี้ เราเห็นว่าพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น”

ตั้งแต่วันที่ไปออกรายการ จนถึงวันนี้ได้คุยกับเขาบ้างหรือยัง?

“(ส่ายหัว) (ทักไปหาเขาไหม?) ไม่ทักเลยค่ะ โบว์ไม่ได้อยากทำให้ใครอึดอึด (เขาก็ไมได้ทักมา?) ไม่มีการพูดคุยกัน”

สิ่งที่มันยังทัชใจเราอยู่คือภาพเก่าๆ หรือแฟนคลับที่ให้กำลังใจแล้วยังเห็นมูดเดิมๆ ในโซเชียล?

“ภาพโบว์ในโซเชียลตอนนี้เยอะมาก โบว์ว่าจริงๆ ต่อให้ไม่มีภาพพวกนั้นมันอยู่ที่นี่ (จับที่หัวใจ) มันเป็นการสะสมระยะเวลานานมาก โบว์ไม่สามารถที่จะกดลบมันไปได้ ถ้าทำได้มันอาจจะไวขึ้น ดีขึ้น แต่ว่า ณ เวลานี้ก็แค่ยอมรับความจริงว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้ แล้วเราก็วันต่อวัน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงเลย เราไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ในสภาวะนี้อีกนานแค่ไหน หรือว่าวันนึงโอเคมากๆ โบว์ไม่รู้เลย เพราะฉะนั้นมันได้แค่ทีละวันๆ จริงๆ ค่ะ”

เวลาดาราเลิกกันคนจะมองหาคนผิด เรามองยังไง?

“โบว์ว่าถ้ามันดีร้อยเปอร์เซ็นต์ มันก็จะไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น โบว์เอว่าทุกคนมีแบบนี้อยู่แล้ว ต่อให้คบกันแค่ 3-4 เดือน หรือคบกันเป็น 10 20 ปี สุดท้ายมันก็ต้องมีบางอย่างที่มันอาจจะกระทบกัน บางสิ่งบางอย่างที่เคยทำ ณ วันนี้มันอาจจะไม่ตอบโจทย์ เพราะมนุษย์เราต้องเข้าใจว่าเปลี่ยนแปลทุกวัน ความต้องการ ความชอบของเราเปลี่ยนแปลงทุกวัน ปีที่แล้วเราอาจจะชอบกินก๊วยเตี๋ยวมาก มาวันนี้จะกินข้าว ไม่กินก๊วยเตี๋ยวแล้ว มันเป็นไปได้เพราเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ อะไรที่มันเคยโอเคมันอาจจะ ณ วันนี้ไม่โอเค มันต้องเติบโตจากจุดเก่าไป เพราะฉะนั้นโบว์ว่าจุดๆ นี้มันก็ทำให้โบว์เติบโตไปอีกระดับนึง ทำให้ไตร่ตรองความคิดตัวเองหรือการกระทำหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นกับใครก็แล้วแต่จะเป็นเพื่อนหรือครอบครัว เราจะมีการคิดมากขึ้น ว่าเราไม่อยากให้ใครู้สึกไม่ดีกับเรา เพราะฉะนั้นมันคือการตลกผลึกของเราไปด้วย เหมือนเราข้ามไปอีกชั้นนึงว่าเราเป็นเวอรั่นที่ดีขึ้นได้ บางสิ่งบางอย่างมันต้องเกิดขึ้นเพื่อให้เราเห็นว่ามันเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นคือการที่เราเปลี่ยนแปลงหรือการที่เรามีเหตุการณ์อะไรที่มากระทบมันต้องทำให้เราโตขึ้น แล้วโตขึ้นไปในทางที่ดีด้วย”

ณ วันนี้เข้าใจเหตุผลที่เขาเปลี่ยนไป?

“ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่พยายามเข้าใจ เพราะทกคนที่เจอโบว์พยายามทำความเข้าใจกับเขามากๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัว เรารู้สึกว่าการที่เราเข้าใจคนนึงจริงๆ เราจะรู้เลยว่าเราต้องรับมือเขายังไงหรือเข้าหาเขายังไง มันเป็นการชีวิตค่ะ”

เขาบอกว่ามันเป็นปัญหาที่สะสม เขาเปรียบเป็นตึกมันใช่เหตุผลเดียวกับที่เราคิดไหม?

“ไม่พูดแล้วกันค่ะ”

มีคนพยายามหาเหตุผลให้คู่เราว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้หรือเปล่า ก่อนหน้านี้มีเรื่องคลิปที่กินอาหาร?

“(หัวเราะ) เอาจริงๆ ทุกครั้งก่อนถ่ายเราจะมีการพูดคุยกันก่อน และก่อนลงก็จะมีการคุยกัน เช็คกันว่าลงได้ไหม แล้วเหมือนจะนานแล้วด้วย ทุกการลงเราจะไม่ลงอะไรที่ไปกระทบใครอยู่แล้ว เราจะมีการคุยกันก่อน เพราฉะนั้นมันไมได้เป็นการแกล้งกัน ก็รู้กันแล้วว่าจะทำ ไม่ว่าคลิปอะไรก็แล้วแต่เราไม่อยากให้มีดราม่าเกิดขึ้น ฉะนั้นถ้าเรารู้สึกว่าทั้งคู่หรือกับเพื่อนเองก็เถอะเวลาจะลงคลิปอะไรก็จะถามว่าโอเคไหม ลงได้ไหม มีการพูดคุยอยู่แล้ว แต่ก็เข้าใจ พยายามเข้าใจ โบว์ไม่ได้โกรธหรือเคืองนะ เข้าใจจริงๆ พอไม่ได้มีการลงดีเทลก็อยากจะหาข้อมูลเพิ่ม โบว์เข้าใจตรงนี้เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันกระทบอะไรโบว์มาก ก็มองไปยิ้มไป”

ตอนแรกคนให้กำลังใจเรา แต่พอมีคลิปออกมาทัวร์ก็ตีกลับเรา?

“บางคอมเมนต์ได้เห็น ในสิ่งที่โบว์รู้สึกนะบางอันที่เรารู้สึกว่าไม่ก็แค่ผ่านไป แต่ถ้าบางอันที่เอ๊ะว่ามีจุดที่เราปรับได้อีก โบว์พยายามเอาคำติมาดูว่าหรือตรงนี้เราอาจจะไม่น่ารัก หรือตรงนี้เราอาจจะปรับให้มันดีขึ้นได้ เพราะว่าเรามนุษย์ที่สามารถพัฒนาได้ตลอดเวลา เราไม่ได้หยุดอยู่กับที่แล้วเราจำเป็นต้องยึดติดว่าเป็นแบบี้จะไม่เปลี่ยนแปลง เราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด พรุ่งนี้อาการโบว์อาจจะดีกว่านี้ก็ได้หรือมก็แย่กว่านี้ก็ได้ มันมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา”

“วี วิโอเลต” คอนเฟิร์มเอง “เก้า จิรายุ” รักกันดี ไม่ใช่คู่รักเสียงดีเลิกเงียบ

“ออย ธนา” เล่าย้อนเส้นทางนักร้อง ไม่เคยคิดว่าจะมาอยู่จุดนี้ได้

เราไม่คิดว่าผิดที่ฝั่งเราหรือเขาไหม?

“มันน่าจะทั้งคู่แหละ โบว์คิดว่าน่าจะต้องเป็นทั้งคู่ เพราะตบมือข้างเดียวมันไม่ดังเนาะ มันต้องมีอะไรที่ต่างคนต่างกระทบกันมากกว่า (เคยเลิกมาหลายครั้ง?) อันนั้นเป็นฟีลทะเลาะกัน (ครั้งนี้หวัง?) ไม่อยากพูดเลย”

อยากคุย อยากเคลียร์อะไรกับเขาไหม?

“จริงๆ มีหลายอย่างที่อยากพูดมาก แต่โบว์ค่อนข้างที่จะเคารพในการตัดสินใจของเขาแล้วก็ให้เกียรติ เพราะรู้สึกว่าใครที่อยู่กับเราแล้วเขาไม่แฮปปี้ โบว์ไม่ได้ใจร้ายเกินไปที่จะต้องรั้งไว้ คุณต้องอยู่ในความทุกข์กับเรา โบว์รู้สึกว่าถ้าเรารักใครมากพอ ไม่ว่าใครก็แล้วแต่เขาอยู่ในจุดอื่นแล้วแฮปปี้กว่า ถ้าเรารักเขาจริงๆ ก็ต้องไม่เห็นแก่ตัว แล้วเราก็ต้องมาจัดการกับตัวเอง”

ที่ผ่านมามีสัญาณว่าทะเลาะก่อน?

“จริงๆ ที่ผ่านมาอาจจะเป็นฟีลง้องแง้ง เป็นฟีลไม่คุยกัน 2-3 วัน ก็เป็นเหมือนคู่ปกติทั่วไปแหละ เวลาไม่แฮปปี้กับอะไรก็จะพักก่อน หันหลังก่อน ไปตั้งสติก่อน แล้วค่อยกลับมาคุยกัน แต่ก็ (พยักหน้า)”

เรียกว่าต้องปล่อยเขาไปเพราะรัก?

“ต้องปล่อย ในเมื่อมันต้องเป็นแบบนี้”

วันหนึ่งมันอาจจะมีหวังก็ได้?

“โบว์ไม่รู้เลย ไม่กล้าจะคอนเฟิร์ม หรือฟันธง เพราะว่าโบว์ไม่รู้จริงๆ แม้กระทั้งเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ค่อนข้างตกใจอยู่เหมือนกัน ก็เลยไม่คาดหวังอะไรละ (ยิ้ม) อะไรมันจะเกิดก็ต้องเป็นไปตามนั้น เพราะเวลาเราไปปักธงอะไรไว้มันเฮิร์ตอ่ะ มันไม่เป็นดั่งใจที่เราต้องการ หรือสิ่งที่เราคิดเอาไว้ แล้วมันเคว้งอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกัน”

ตอนนี้ใช้คำว่ามูฟออน “โบว์” สามารถเดินออกมาได้ไหม?

“โบว์พยายามอยู่ (หัวเราะ) มันนาน เมมโมรีมันเยอะ อย่างที่บอกโบว์จะค่อยๆ ไป เพราะโบว์ไม่อยากรู้สึกว่า ไม่เอาละ เราสบาย แล้วผ่านไป 2 อาทิตย์ดิ่งกว่าเดิมอีก โบว์กลัวว่ามันจะไปอยู่ในจุดๆ นั้น เพราะฉะนั้นเดย์บายเดย์ให้มันเป็นกระบวนการของมันไป โบว์จะค่อยๆ ไป เพราะโบว์ไม่อยากรู้สึกว่าไม่เอาแล้ว สบาย แต่พอผ่านไป 2 อาทิตย์กลับดิ่งกว่าเดิมอีก โบว์กลัวว่ามันจะกลับไปอยู่จุดๆ นั้นเพราะฉะนั้นให้มันเป็นเดย์บายเดย์ ให้มันเป็นกระบวนการของมันไป บางคนทำได้ไวก็ดีใจกับเขามาก เพราะมันจะฟื้นฟูตัวเองได้เร็ว แต่ถ้ามันต้องใช้เวลาก็ให้เวลากับมัน เพราะพูดตรงๆ ความรู้สึกนี้ก็ไม่ได้มีมานานมาก (ยิ้ม)​ พอมาแล้วก็ทำความรู้จักใหม่ เราก็ต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจเขาใหม่ ว่าเราอายุขนาดนี้แล้ว โตขนาดนี้เรามีวิธีในการจัดการกับมันยังไง เราคงไม่ใช้วิธีเดิมๆ ค่ะ ก็ใช้วิธีที่มันโตขึ้น”

เรื่องข้าวของต่างๆ?

"โบว์กับเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว เขาอยู่บ้าน โบว์ก็อยู่คอนโดของโบว์"

จริงๆ แล้วเกี่ยวกับเรื่องทัศนคติด้วยไหม เพราะคนจับประเด็นเวลาที่ก็อตพูดออกสื่อ?

“เขาเป็นคนอ่านหนังสือเยอะ และเป็นคนคิดหลายชั้น ถ้าใครรู้จักหรือเคยสัมภาษณ์เขา เขาจะไตร่ตรองในทุกๆ อย่างที่พูดออกไป หรือข้อความในอดีตที่เขาเคยลง โบว์ว่ามันก็คือบทสรุปจากที่เขาอ่านหนังสือหรือที่เขาประสบมา ให้คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือได้อ่า​น หลายๆ คนก็ได้ตกผลึกจากตรงนั้น เชื่อว่าเป็นเรื่องดี สำหรับโบว์ไม่ได้รู้สึกว่าแปลกค่ะ”

ไม่เกี่ยวกับมือที่สาม​ใช่ไหม?

" คิดว่าใช่ (ยิ้ม)​ (ไม่เคยมีเรื่องให้ระแคะระคายใช่?) ใช่ค่ะ ไม่มี”

เป็นปัญหาที่สะสมมานานใช่ไหม?

“ไม่รู้เลย คิดว่านะ เพราะไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ โบว์คิดว่าบางทีมันไม่จำเป็นต้องหาคำตอบแล้ว ปล่อยให้เวลามันเคลียร์ไป แยกกันไปเติบโต โบว์คิดว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้ เพราะเขาเป็นคนที่ดีและเป็นคนน่ารัก โบว์คิดว่าโบว์ได้เติบโตจากการที่ได้อยู่กับเขา เพราะเขาเป็นคนที่ตั้งใจมุ่งมั่น ทำให้เรามีความพยายามอยากจะพัฒนาตัวเองเช่นกัน ไม่มีความรู้สึกไม่ดี ไม่มีความรู้สึกโกรธเคืองอะไรก็แล้วแต่ มีแต่ความหวังดีให้ ทุกวันนี้สวดมนต์นั่งสมาธิ โบว์มีแต่แผ่ความรักให้เขา เพราะสุดท้ายแล้วเราก็มีแต่ความหวังดี เราไม่ได้อยากจะให้เขาจมปลักอยู่กับความรู้สึกอะไรก็แล้วแต่ อยากให้เขามีความสุข เพราะสุดท้ายแล้วเราไม่ได้มีความโกรธเคือง ไม่ได้มีความแค้นอะไร ต่อให้อะไรก็แล้วแต่ไม่ถูกใจเราก็เถอะ แต่ทำให้คนที่เรารักแฮปปี้เราก็ไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไรมากมาย”

 “โบว์ เบญจวรรณ” ยังมีร้องไห้บ้าง เลิก “ก๊อต จิรายุ” พยายามมูฟออน