หนุ่มโวย รพ.ฉีดยาผิดเตียง ทำพ่อเกือบตาย – เด็ก 1 ขวบโคม่าจ่ายยาผิด!
ที่จังหวัดยะลา มีกรณีที่มีหนุ่มคนหนึ่ง โพสต์ระบายประสบการณ์ที่พบเจอ จากการรักษาผิดพลาดของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดยะลา ระบุว่า “ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นครั้งที่ 2 กับครอบครัวตัวเอง เคสฉีดยาผิดเตียง เคสแรกพี่สาวผม หลังจากฉีดยาไม่นานพี่สาวผมชัก หลังจากนั้นก็เสียชีวิต วันนี้เกิดกับพ่อผมอีก โชคดีที่ไม่เสียชีวิต หวังว่าเคสพ่อผมจะเป็นเคสสุดท้าย”
ล่าสุดแพทย์หญิงนิตยา ภูวนานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา เผยว่า ได้จัดการดูแลแก้ปัญหาแล้ว คนไข้ปลอดภัย และได้ดำเนินการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ 2
คำพูดจาก สล็อตวอเลท
ดราม่า! จนท.รถพยาบาลแวะซื้อกล้วยทอด ขณะพาคนป่วยส่ง รพ.
เด็ก ม.1 คลั่งยา! ครูหามส่ง รพ. ซักประวัติเสพตั้งแต่อยู่ชั้น ป.5
เภสัชกร จ่ายยาสระผม แทนยาแก้ไอ รู้หลังทานแล้วแปลกๆ
ด้านนายมัสกานดา ลูกชายของผู้ป่วย และคนโพสต์เรื่องราว ระบุว่า ตอนนี้ ทางโรงพยาบาลได้เข้ามาเยี่ยมพ่อ และขอโทษทางครอบครัวตนแล้ว เท่าที่ได้คุยกับหมอ บอกว่า สำหรับตัวยาอินซูลิน ที่ฉีดเข้าไปในท้องของพ่อมีอายุของยาประมาณ 2 วัน หลังจากนั้นก็จะไม่มีการกระทบต่ออาการอื่น ตอนนี้ได้ย้ายจากห้องรวม มาอยู่ห้องพิเศษแล้ว ทางครอบครัวได้พอใจในระดับหนึ่ง แต่อยากให้ทางโรงพยาบาล มีมาตรการหรือวิธีการแก้ไข เกี่ยวกับเคสที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกับครอบครัวของตนหรือว่าครอบครัวคนอื่น และอยากให้โรงพยาบาลออกมาแถลงการณ์ พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และเยียวยา ความเสียหายครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตใจ และความเสียหายทั้งหมด
นอกจากนั้นยังมีกรณีแม่พาลูกชายวัย 1 ขวบ ส่งไปรักษาโรงพยาบาล เพื่อรักษาชีวิตลูก หลังจากลูกชายลื่นล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำ จึงตัดสินใจพาลูกไปสแกนสมองที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ แต่โรงพยาบาลส่งลูกไปสแกนสมองอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ระหว่างเดินทางพยาบาลที่นั่งไปด้วยบอกว่าให้น้องกินยานอนหลับ เพื่อให้น้องไม่ดิ้นตอนเข้าเครื่องสแกนสมองแต่พอลูกชายกินเข้าไปได้สักพัก มีอาการริมฝีปากซีดขาว แพทย์ที่รักษาต่อแจ้งว่ายาที่น้องกินเข้าไปนั้นเป็นกรด
จากนั้นโรงพยาบาลที่ 2 รีบประสานไปยังโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อส่งตัวลูกชายไปรักษาต่อ ล่าสุดน้องวัย 1 ขวบยังอยู่ในห้องไอซียู โดยยาที่ให้น้องกิน มีชื่อว่า TCA (กรดไตรคลอโรอะเซติก) ใช้ในการจี้-รักษาหูดหงอนไก่ เป็นยาใช้ภายนอก ผู้ใช้จะมีอาการระคายเคืองผิวหนัง แต่น้องกินเข้าไป
ล่าสุด นพ.วันฉัตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าว ชี้แจงว่า จุดที่เกิดเหตุอยู่ในรถฉุกเฉิน ปกติตัวยาทั้ง 2 ชนิด จะจัดวางแยกกัน ระหว่างยาใช้ภายนอกที่มีฤทธิ์เป็นกรด และยาใช้ภายใน หลังจากนี้จะตรวจสอบว่าความผิดพลาดเกิดจากอะไร เมื่อถามว่ายาทั้ง 2 ชนิด มีลักษณะใกล้เคียงกันหรือไม่ นพ.วันฉัตร กล่าวว่า เท่าที่ทราบจากที่รับแจ้งมา ทั้งบรรจุภัณฑ์และสียาใกล้เคียงกัน
เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องหยุดงานทันทีระหว่างขั้นตอนการสอบสวน ยืนยันผู้ที่จ่ายยาให้เป็นทีมเภสัชกร หากพบเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมีความบกพร่องจริงจะถูกดำเนินการ ตามระเบียบราชการโทษสูงสุด ส่วนผู้ป่วยทางโรงพยาบาล จะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายเต็มที่ และทำเอกสารเพื่อยื่น ม.41 เพื่อการเยียวยากับน้องโดยตรง